ย้อนรอยฟุตบอลโลก 2014 เยอรมันกับแชมป์โลกสมัยที่ 4
ย้อนรอยฟุตบอลโลก 2014
เกมการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2014 จัดขึ้นที่ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า บราซิล ในฐานะเจ้าภาพ กลายเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหนนั้น อย่างไรก็ทัพ เยอรมัน สร้างความเจ็บปวดที่เจ้าภาพไม่อาจจะลืมเลือน เยอรมัน เริ่มต้นฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก อยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับ สวีเดน , ออสเตรีย , คาซัคสถาน , ไอร์แลนด์ และ หมู่เกาะแฟร์โร พวกเขาออกสตาร์ทด้วยชัยชนะ 3 นัดรวด และในอีก 6 เกมต่อไป พวกเขาเก็บชัยรวด ผ่าน 10 นัด ชนะ 9 เสมอ 1 คว้าแชมป์กลุ่ม C แบบไร้คู่เปรียบ
กลุ่ม G กับบทพิสูจน์ที่หนักเอาเรื่อง
ในกลุ่ม G นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่หนักเอาเรื่อง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เยอรมัน เปิดนัดแรกด้วยการถล่ม โปรตุเกส 4-0 โดยที่ โธมัส มุลเลอร์ ซัดแฮตทริค บวกอีก 1 ลูกจาก แมตต์ ฮุมเมิลส์
จากนั้นในเกมที่ 2 พวกเขาต้องไล่ตามตีเสมอ กาน่า 2-2 โดยที่ มาริโอ เกิตเซ่ ยิงให้ทีมออกนำก่อน 1-0 (นาที 51) ทว่าถูก กาน่า ยิงแซง 2-1 ในนาที 54 ต่อด้วย 63 ก่อนที่ โธมัส มุลเลอร์ จะมายิงประตูตีเสมอ 2-2 (นาที 71) เป็นประตูที่ 4 ของมุลเลอร์ในฟุตบอลโลกหนนี้
เกมที่ 3 เยอรมัน ต้องการสามคะแนนจาก สหรัฐฯ เพื่อการันตีแชมป์กลุ่ม แล้วได้ประตูชัย 1-0 จากการยิงของ โธมัส มุลเลอร์ คนเดิม นับเป็นประตูที่ 5 พาทีมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่ม G
รอบ 16 ทีมสุดท้ายกับยอดทีมจากแอฟริกา
ในเกมที่ เยอรมัน ได้พบกับ แอลจีเรีย ที่ถือว่าเป็นยอดทีมจากแอฟริกา ทีมอันดับที่ 2 ของกลุ่ม H ซึ่งในเกมนี้ต้องเป็นการดวลกันยาว 120 นาที ก่อนจะได้ความยอดเยี่ยมของนักเตะอย่าง อันเดร ชูเลร์ (นาที 92) กับ เมซุส โอซิล (นาที 120) ช่วยกันยิงคนละประตู ส่งให้ “อินทรีเหล็ก” เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-1
รอบ 8 ทีมสุดท้ายกับแชมป์โลกเก่า
ฝรั่งเศส ผู้ที่เป็นเจ้าของแชมป์โลกปี 1998 คือคู่ต่อสู้ของ เยอรมัน ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งประตูเดียวของ แมตต์ ฮุมเมิลส์ ในนาทีที่ 13 ได้ทำให้ส่งผลให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เข้าไปพบกับ ทีมชาติบราซิล ชาติเจ้าภาพ เจ้าของแชมป์โลก 5 สมัย ที่ผ่าน โคลัมเบีย มาด้วยสกอร์ 2-1
รอบรองชนะเลิศกับทีมจากแดนแซมบ้า
เยอรมัน วัดฝีเท้ากับ บราซิล ซึ่งหลายคนอยากให้คู่นี้เป็นนัดชิงชนะเลิศ เพราะต่างก็มีดีกรีแชมป์โลกรวมกัน 8 สมัย แต่เมื่อเส้นทางพาให้ทั้งคู่มาบรรจบกันที่รอบนี้ ก็ต้องวัดกันหน่อย ซึ่งทัพ “อินทรีเหล็ก” ออกตัวนำตั้งแต่ 11 นาทีแรก จากการยิงของ โธมัส มุลเลอร์ ซึ่งเป็นประตูที่ 6 ของมุลเลอร์ในทัวร์นาเมนต์ จากนั้นสกอร์ 2-0 ไหลตามมาในนาทีที่ 23 จากการยิงของ มิโรสลาฟ โคลเซ่
แล้วอีก 3 ประตูไหลตามมาในเวลาห่างกันแค่ 6 นาที จากการยิงของ โทนี่ โครส (2 ประตู) และ ซามี่ เคดิร่า (1 ประตู) ผ่าน 30 นาที เยอรมัน ทิ้งขาด 5-0 แทบจะปิดเกมนี้ทันที อย่างไรก็ตามในครึ่งหลัง เยอรมัน ยังเคี่ยวลากดิน ตีงูต้องเอาให้ตาย ว่าแล้ว อันเดร ชูเลร์ มายิงเพิ่มอีก 2 ประตู (นาที 69,79) สกอร์ขยับเป็น 7-0 แล้วบราซิลมาได้ประตูปลอบใจ 1-7 จากการยิงของ ออสการ์ ในนาทีสุดท้าย แต่ก็ทำได้แค่นั้น
รอบชิงชนะเลิศ ดับฝัน เลโอเนล เมสซี่
อาร์เจนติน่า คู่ชิงของ เยอรมัน เดินทางมาถึงรอบนี้อย่างแข็งแกร่ง พวกเขาเก็บคลีนชีตได้ถึง 4 นัด ผ่านยอดทีมของยุคอย่าง เบลเยี่ยม ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ต่อด้วยหักด่าน ฮอลแลนด์ ในรอบรองชนะเลิศ แถมพวกเขายังมี ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะเบอร์ 1 ของโลกอยู่ในทีม อย่างไรก็ตาม ยี่ห้อเยอรมัน ไม่ได้ยี่หร่ะแค่นักเตะเพียงคนเดียว พวกเขาฟัดกับ “ฟ้าขาว” จนถึง 120 นาที ก่อนจะเป็นฝ่ายเอาชนะไป 1-0 จากประตูชัยของดาวรุ่งพุ่งแรงของเยอรมันในยุคนั้นอย่าง มาริโอ เกิตเซ่ ในนาที 113 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 ไปครอง