เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : สำหรับการแข่งขันในลีกนั้นเขาคือตัวจริงสำหรับสโมสรอย่างลิเวอร์พูล แต่ทว่าในเรื่องทีมชาติเขายังไม่สามารถโน้มน้าวใจแกเร็ธ เซาธ์เกตได้อย่างเต็มที่ว่าเขาคู่ควรกับตำแหน่งตัวจริง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์คือหนึ่งในปริศนาของวงการฟุตบอลอังกฤษ

คอเนอร์ โคดี้ : สำหรับตัวของ โคดี้ถูกพิจารณาว่าไม่เป็นที่ต้องต้องการของสโมสรฟุตบอล Wolves แต่ทว่าสำหรับตัวของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เขาไม่ได้มองแบบนั้น เขายังคงมองว่าโคดี้เป็นคนที่มีประโยชน์อย่างมากในทีมชาติอังกฤษ และพร้อมจะให้โอกาสเขาเล่นเสมอ

เอริค ไดเออร์ : ไดเออร์ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษเป็นประจำภายใต้การคุมทีมของ เซาธ์เกต เขาได้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คให้กับประเทศของเขาทั้งในฟุตบอลโลก 2018 และยูโรที่ลงเล่นในสามซัมเมอร์ต่อมา ในอดีตเขายิงจุดโทษชี้ขาดให้กับโคลอมเบียเพื่อผนึกชัยชนะด้วยการดวลจุดโทษครั้งแรกของประเทศของเขาในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ

แฮรี่ แม็กไวร์ : เขาได้เป็นตัวจริงให้กับประเทศของเขาในเวทีโลก โดยมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้พวกเขาไปถึงฟุตบอลโลก 4 ครั้งหลังในปี 2018 และยูโรรอบสุดท้ายในสามฤดูร้อนต่อมา

ลุค ชอว์ : ชอว์อยู่ในทีมชุดใหญ่ทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2014 แต่ติดทีมชาติไปเพียง 23 นัด ซึ่งบ่งบอกถึงปัญหาบางอย่างที่เขามีกับความสม่ำเสมอในอาชีพค้าแข้ง

จอน สโตนส์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงชื่นชอบในตัวเขาไม่น้อยเพราะสโตนส์มีความหลากหลายในการเล่นพอที่จะเล่นแบ็คขวาได้เช่นกันหากต้องการ อาการบาดเจ็บแฮมสตริงทำให้ฤดูกาลของเขาหยุดชะงัก แต่เขาเพิ่งกลับมาลงเล่นและลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีกแบบแบ็คทูแบ็ค

คีแรน ทริปเปียร์ :ในอาชีพค้าแข้งที่เริ่มต้นโดยไม่ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนย้ายไปเบิร์นลีย์ เขาเป็นนักเตะของท็อตแน่มที่เขามีส่วนร่วมทำไห้ทีมกลับมามีความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ทำให้ผลงานในครั้งนี้คงถูกใจกุณซือทีมชาจิอังกฤษไม่น้อย

ไคล์ วอล์กเกอร์ : มันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถและประสบการณ์ที่ยืนยงของเขาที่เซาธ์เกตเลือกวอล์คเกอร์ จากการลงเล่นให้ทีมชาติไปแล้ว 70 นัด เขาได้เห็นฟอร์มการเล่นในระดับนานาชาติมากกว่ากองหลังคนอื่นๆ ได้เล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 3 รายการ