โดยแมตช์นี้ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง สร้างผลงานสุดยอดมีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดเก็บ 3 คะแนนสำคัญ ขณะที่ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” การพ่ายแมตช์นี้ทำให้สถานการณ์ของพวกเขาต้องเหนื่อยหนักกับสถานการณ์ที่ต้องสู้เพื่อความอยู่รอดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี

       แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือใหม่แกะกล่องเอฟเวอร์ตัน เพิ่งจะทำผลงานสวยหรูนำทีมถลุง เบรนท์ฟอร์ด ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้กลับมาสัมผัสเกมลีกแมตช์แรกนับตั้งแต่ที่โดน เชลซี ปลด โดยเกมนี้เขายังไม่ส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, เดเล่ อัลลี่ และ อันวาร์ เอล กาซี่ 3 แข้งใหม่ลงสนามตัวจริง ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ยังคงนำทัพโดยคีแรน ทริพเพียร์, อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง และโชลินตอน

      เริ่มเกม นิวเคิ่ลเซิ่ล เดินเครื่องเต็มสูบ และครองเกมได้เหนือกว่าทีมเยือนจนกระทั่งนาทีที่ 2 จอนโจ้ เชลวี่ย์ มีโอกาสตัดบอลเกือบกลางสนามก่อนจะกระชากหนี เยร์รี่ มิน่า และซัดไกลเต็มข้อแต่บอลเหินข้ามคานแบบมีลุ้น

     นาทีที่ 36 ทีมเยือนได้ประตูนำ 1-0 เมื่อพวกเขาได้เล่นลูกฟรีคิกและเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ริชาร์ลิซอน โหม่งไปให้กับ ทาวน์เซนด์ ที่จัดการกดเต็มข้อแต่โดนสกัดได้บริเวณเส้นประตู ก่อนที่บอลจะกระดอนไปโดน แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ เข้าประตูตัวเอง

    อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 38 สาวก “สาลิกาดง” ได้เฮลั่นเมื่อทีมได้ลูกเตะมุม เจมาล ลาสเซลล์ส โขกไปชนคาน แต่โชคร้ายของทีมเยือนที่บอลดันเด้งไปโดนต้นขาของ เมสัน โฮลเกท เข้าประตูตัวเองเช่นกัน ทำให้สกอร์เสมอกัน 1-1

     แซงต์-มักซิแม็ง สร้างความปั่นป่วนให้เกมรับของ เอฟเวอร์ตัน อย่างต่อเนื่อง และสามารถเรียกฟาวล์ให้กับทัพ “สาลิกาดง” ได้เรื่อยๆ  จนกระทั่งนาทีที่ 56 เจ้าบ้านได้ประตูนำ 2-1 เมื่อ โชลินตอน ส่งบอลให้ แซงต์-มักซิแม็ง กระชากหนีแนวรับทีมเยือนจนถึงเส้นหลังก่อนตวัด

     นิวคาสเซิ่ล มาได้ประตูนำ 3-1 ในนาทีที่ 80 จากจังหวะฟรีคิกระยะมากกว่า 20 หลา และเป็น ทริพเพียร์ ที่ขันอาสารับหน้าที่สังหาร ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อจัดการตะบันเข้าประตูไปอย่างงดงาม และเป็นประตูแรกของเขาในสีเสื้อ “ทูน อาร์มี่” จบเกม นิวคาสเซิ่ลเปิดรังคว้าสามคะแนนได้สำเร็จ