สรุป 16 ทีมที่ได้เข้าสู่รอบน็อคเอาท์การแข่งขัน UEFA CHAMPIONS LEAGUE

16 ทีมที่ได้เข้าสู่รอบน็อคเอาท์การแข่งขัน UEFA CHAMPIONS LEAGUE

16 ทีมที่ได้เข้าสู่รอบน็อคเอาท์การแข่งขัน UEFA CHAMPIONS LEAGUE

     การแข่งขัน UEFA CHAMPIONS LEAGUE ฤดูกาล 2022 รอบแบ่งกลุ่มก็ได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเราก็ได้รายชื่อทีมที่จะได้เข้าสู่รอบน็อคเอาท์ที่การแข่งขันมีความดุเดือดและเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม แถมฤดูกาลนี้ยังมีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายรออยู่อีกต่างหาก เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า 16 ทีมที่ได้เข้าสู่รอบต่อไปในการแข่งขันครั้งนี้จะมีใครกันบ้าง

  1. นาโปลี แชมป์จากกลุ่ม A ที่มีผลงานชนะ 5 ครั้งแพ้ 1 ครั้ง เข้าสู่รอบต่อไปด้วยคะแนนกว่า 15 แต้ม การแข่งขันในฤดูกาลนี้พวกเขามีผลงานที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในการแข่งขันแชมป์เปียนลีกที่ทำผลงานออกมาได้ดีเกินคาด ถึงขั้นแจ้งทีมใหญ่จากพรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูลได้อย่างไม่ยากเย็น
  2. ลิเวอร์พูล รองแชมป์กลุ่ม A ชนะ 5 ครั้งแพ้ 1 ครั้งมีทั้งหมด 15 แต้มแต่จบที่การเป็นรองจ่าฝูงเนื่องจากผลต่างประตูได้เสียเป็นรองกว่านาโปลี ผลงานครั้งนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ค่ะเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว
  3. เอฟซี ปอร์โต้ แชมป์กลุ่ม B ที่สามารถชนะไปได้ถึง 4 ครั้งและแพ้ 2 ครั้ง มีในมือทั้งหมด 12 แต้ม ถึงแม้ว่า 2 เกมแรกจะแพ้รวดแต่พวกเขาก็สามารถกลับคืนสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของตนเองได้อีกครั้ง
  4. คลับ บรูซ รองแชมป์กลุ่มบีที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก เขาสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับทุกคนด้วยการชนะ 3 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และแพ้อีก 1 ครั้ง มีอยู่ในมือถึง 11 แต้มเลยทีเดียว
  5. บาเยิร์น มิวนิค แชมป์กลุ่ม C ที่ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่เพราะพวกเขาชนะรวดถึง 6 ครั้งและมีในมือกว่า 18 แต้มเลยทีเดียว 
  6. อินเตอร์ มิลาน รองแชมป์กลุ่ม C ที่ชนะ 3 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง แพ้ 2 ครั้ง มีอยู่ในมือทั้งหมด 10 แต้ม ถึงผลงานจะค่อนข้างน่าเป็นห่วงแต่พวกเขาก็ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้อย่างสมศักดิ์ศรีเช่นเดียวกัน
  7. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แชมป์กลุ่มดีที่ชนะไปทั้งหมด 3 ครั้ง เสมอ 2 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง มีในมือทั้งหมด 11 แต้ม นับว่าเป็นการเข้าสู่รอบน็อคเอาท์แชมป์เปียนลีกที่ค่อนข้างน่าหวาดเสียวไม่น้อยเพราะต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย
  8. ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต รองแชมป์กลุ่ม D ชนะไป 3 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง และแพ้ 2 ครั้ง มีในมือทั้งหมด 10 แต้มเทียบเท่ากับอินเตอร์ มิลาน
  9. เชลซี แชมป์กลุ่ม E ที่ไม่มีอะไรน่าสงสัย พวกเขาชนะไป 4 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง และเสมออีก 1 ครั้ง มีอยู่ในมือถึง 13 แต้มเลยทีเดียว
  10. เอซี มิลาน รองแชมป์กลุ่ม E ที่มีทั้งหมด 10 แต้มจากการเสมอกันทั้งหมด 1 ครั้ง ชนะ 3 ครั้ง และแพ้ 2 ครั้ง ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเพราะนักเตะคนสำคัญอย่างซลาตัน อิบราฮิโมวิชต้องพักยาวกว่าครึ่งฤดูกาล
  11. เรอัล มาดริด แชมป์กลุ่ม F ตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้อีกครั้งด้วยการชนะไป 4 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง แพ้อีก 1 ครั้ง มีอยู่ในมือถึง 13 แต้มเลยทีเดียว
  12. แอร์เบ ไลป์ซิก รองแชมป์กลุ่ม F ที่น่าจับตามองด้วยการชนะไป 4 ครั้งและแพ้อีก 2 ครั้ง มีคะแนนตามหลังแชมป์กลุ่มเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
  13. แมนซิตี้ แชมป์กลุ่ม G ที่ตอนนี้กำลังร้อนแรงอย่างถึงขีดสุดด้วยการชนะ 4 ครั้งและเสมอ 2 ครั้ง เก็บไว้ได้ทั้งหมดกว่า 14 แต้มเลยทีเดียว
  14. โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองแชมป์กลุ่ม G ที่ชนะไป 2 ครั้ง เสมอ 3 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง มีในมือเพียงแค่ 9 คะแนนเท่านั้นแต่โชคดีที่ทีมอื่นทำผลงานได้แย่กว่าเลยยังได้ผ่านเข้ารอบ
  15. เบนฟิก้า แชมป์กลุ่ม F ที่ขึ้นมาเป็นแชมป์กลุ่มแบบหน้าตาเฉยด้วยการชนะ 4 ครั้งและเสมอ 2 ครั้ง มีอยู่ในมือถึง 14 แต้ม แซงทีมใหญ่อย่างปารีสได้อย่างงดงาม
  16. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รองแชมป์กลุ่ม F ที่เสมอไป 2 ครั้งและชนะ 4 ครั้งเช่นเดียวกับเบนฟิก้าและมีคะแนนเท่ากันที่ 14 แต้ม แต่เพราะพวกเขาทำประตูนอกบ้านได้น้อยกว่าพวกเขาจึงต้องกลายมาเป็นรองแชมป์อย่างน่าเสียดาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม :: 7m

ข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

วิเคราะห์บอลก่อนเกม