ฮอฟเฟ่นไฮม์ ถล่ม ไมนซ์ 4-1 นั่งจ่าฝูง

เกมในช่วง 45 นาทีแรก ทั้งสองทีมมีโอกาสยิง 6 ครั้งเท่ากัน แต่ฝั่ง ฮอฟเฟ่นไฮม์ เกือบจะได้ประตูในนาทีที่ 44 เมื่อพวกเขาได้จุดโทษ น่าเสียดายที่ อันเดรย์ ครามาริซ ยิงไม่เข้า อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้เปรียบจากจังหวะนี้อยู่เหมือนกัน เพราะไมนซ์เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ อเล็กซานเดอร์ แฮ็ค โดนใบแดง ซึ่งเป็นที่มาของจุดโทษในจังหวะนี้

เข้าสู่ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปลี่ยน 1 ตำแหน่งตั้งแต่ต้นเกม ฮอฟเฟ่นไฮม์ ส่ง สแตนลี่ย์ เอ็นโซกี้ ลงมาแทน เควิน อักโปกูม่า ส่วนไมนซ์ส่ง นิคลาส เตาเยอร์ ลงมาแทน ดานาโน่ เบิร์กซอร์ค

ผ่านไปถึงนาทีที่ 53 ฮอฟเฟ่นไฮม์ออกนำจนได้ 1-0 จากจังหวะที่ จอร์จินิโอ รุตเตอร์ จ่ายให้ อันเดรย์ ครามาริซ ยิงเข้าไป เป็นการแก้ตัวที่ยิงจุดโทษไม่เข้า จากนั้นในนาทีที่ 69 สกอร์ไหลเป็น 2-0 จากการยิงของ กริสช่า โพรเมิล

หลังจากนั้น ยังเป็นเกมของฮอฟเฟ่นไฮม์อย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 80 มูนาส ด๊าบเบอร์ ใส่สกอร์ให้ทีมทิ้งขาดเป็น 3-0 แต่อีก 3 นาทีต่อมา ไมนซ์ไล่มาเป็น 1-3 จากการยิงของ โดมินิค คอห์

ช่วงเวลาที่เหลือ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เล่นแบบประคองเกม ไม่โหมบุกมานัก ก่อนจะมาได้ประตูปิดเกมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากการยิงของ พาเวล คาเดราเบ็ค

ฮอฟเฟ่นไฮม์ แต้มทาบจ่าฝูง ไมนซ์อยู่อันดับ 6

หลังผ่าน 6 เกม ฮอฟเฟ่นไฮม์ เก็บได้ 12 คะแนน (ชนะ 4 แพ้ 2) นำเป็นจ่าฝูงร่วมกับอีก 3 ทีม โดยเกมที่ 7 ลูกทีมของ อันเดร ไบรเทนไวเตอร์ มีคิวเปิดบ้านรับมือ ไฟร์บวร์ก ในวันที่ 18 กันยายน

ฮอฟเฟ่นไฮม์ เป็นฝ่ายครองบอล 65.3% พร้อมโอกาสยิง 21 ครั้ง โดยที่ จอร์จินิโอ รุตเตอร์ แอสซิสต์ 1 ครั้ง โอกาสยิง 2 ครั้ง สร้างโอกาส 2 ครั้ง ทำผลงานดีที่สุดในสนาม (8.6 คะแนน) ตามด้วย คริสตอป บอมการ์ทเนอร์ โอกาสยิง 5 ครั้ง แอสซิสต์ 1 ครั้ง (7.4 คะแนน) และ โอซาน คาบัค ชนะลูกกลางอากาศ 4 ครั้ง เคลียร์บอล 3 ครั้ง (7.4 คะแนน)

ทางฝั่ง ไมนซ์ เกมนี้มีโอกาสยิงแค่ 9 ครั้ง จากการครองบอล 34.7% โดยที่ โดมินิค คอห์ เจ้าของสกอร์ 1-3 แท็คเกิล 3 ครั้ง โอกาสยิง 3 ครั้ง ทำผลงานดีที่สุดในทีม (7.3 คะแนน) หลังผ่าน 6 เกม ไมนซ์ เก็บได้ 10 คะแนน อยู่อันดับที่ 6 ตามหลังจ่าฝูง 2 คะแนน โดยเกมนัดที่ 7 ลูกทีมของ โบ สเวนสัน มีคิวเปิดบ้านรับมือ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ในวันที่ 16 กันยายน