ฟาน ไดค์ เผยการรับการรับมือ กับฮาแลนด์ไม่ใช่เรื่องง่าย

เปิดฤดูกาลได้ไม่ถึง 10 นัดนักเตะพรุ่งนี้กลับสามารถทำไปได้แล้วถึง 15 ประตูอย่างงดงาม เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและมีฟอร์มที่ร้อนแรงมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ไม่เฉพาะในพรีเมียร์ลีกแต่รวมถึงการแข่งขันทั่วทั้งโลกเลยทีเดียว ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้อีกต่อไป และเขาก็กลายมาเป็นตัวการที่ทำให้บรรดานักเตะกองหลังมากฝีมือทั่วโลกต่างต้องกังขากับความสามารถของตนเองว่าดีพอแล้วหรือยัง ไม่เว้นแม้กระทั่งกองหลังมากฝีมือจากลิเวอร์พูลที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการรับมือกับนักเตะชาวนอร์เวย์พรุ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อยและนับว่าเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจเช่นเดียวกัน

เขาได้ออกมาเปิดออกว่าตนเองรวมไปถึงนักเตะลิเวอร์พูลทุกคนที่จะได้ลงสนามแข่งขันกับแมนซิตี้ในอนาคตจะต้องเจอกับงานหนักอย่างแน่นอนในการหยุดยั้ง ฮาแลนด์ ให้สำเร็จ และยังย้ำอีกด้วยว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการแข่งขันกับแมนซิตี้ไม่ใช่การดวลกันระหว่างตนเองกับนักเตะชาวนอร์เวย์ แต่เป็นการดวลกันของนักเตะทุกคน ในทุกตำแหน่งของทั้งสองทีมต่างหาก แม้ว่าครั้งหนึ่งลิเวอร์พูลจะสามารถเอาชนะแมนซิตี้ที่มีฮาลาลมาได้ในช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมากับการแข่งขันคอมมูนิตี้ชิลด์ แต่ในตอนนั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของฮาแลนด์ที่ยังไม่ได้ระเบิดฟอร์มแต่อย่างใด 

เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อชื่อดังจากนอร์เวย์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเอาไว้ว่า การพบกับเออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน เขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงและเราไม่สามารถพูดออกมาในรูปแบบอื่นได้ หลังจบการแข่งขันคอมมูนิตี้ชิลด์ หลายคนมองว่าเขาจะไม่สามารถระเบิดฟอร์มออกมาได้ ตนเองจำได้ดีเลยว่าตนเองเคยพูดว่าเขาจะกลายเป็นคนที่ทำให้กองหลังทุกคนต้องเจอกับฝันร้ายอย่างแน่นอน และตอนนี้เขาก็สามารถทำมันได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขามีโอกาสทำประตูได้อยู่เสมอเมื่อเล่นกับทีมที่ยอดเยี่ยมอย่างแมนซิตี้

เราต้องพยายามทำอย่างไรก็ได้ให้บอลมาไม่ถึงเขา น้องต้องเล่นเกมรับด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดให้สำเร็จ เราต้องทำผลงานของตนเองออกมาให้ยอดเยี่ยมที่สุด ความจริงแล้วการเจอกับทีมอย่าง แมนซิตี้ นั้นเราจำเป็นที่จะต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว และการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์นี้ก็ไม่ได้ต่างออกไปแต่อย่างใด มันเป็นเกมที่ทุกคนต่างรอ มันไม่ใช่การดวลกันระหว่างตนเองกับเขา แต่มันเป็นการดวลกันของนักเตะทุกคนในสนาม มีเพียงแค่คนภายนอกเท่านั้นที่จุดประเด็นการดวลกันของนักเตะแบบตัวต่อตัวออกมา เราต้องการที่จะทำให้พวกเขาทำประตูไม่สำเร็จไม่ว่าจะเป็นใครที่ลงสนามมาก็ตาม แต่ที่เรารู้ก็คือเขาเป็นนักเตะที่เก่งเลยทีเดียว