แกรี่แนะตระกูลเกลเซอร์ เสียสละเพื่อทีมไม่รับเงินปันผลเพื่อให้แมนยูมีเงินใช้

     ดังนั้นการเป็นผู้ลงทุนทำตัวเป็นเสือนอนกินไม่รับรู้อะไรเอาแต่จะรับเงินปันผลในขณะที่ธุรกิจกำลังเต็มไปด้วยความยากลำบากจึงกลายเป็นสิ่งที่ดูเห็นแก่ตัวไม่น้อยเลยทีเดียว ในสายตาของอดีตตำนานนักเตะในแมนยูอย่างแกรี่ เนวิลล์จึงมองว่า ตระกูลเกลเซอร์ ผู้เป็นเจ้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นไม่เหมาะสมต่อการรับเงินปันผลในฤดูกาลนี้อย่างไรหลังจากที่ทีมทำผลงานออกมาได้อย่างย่ำแย่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

     พวกเขาจบการแข่งขันไปด้วยอันดับที่ 6 บนตาราง เกือบจะไม่ได้เข้าการแข่งขันยูฟ่า ยูโรปา ลีกแถมยังไม่มีลุ้นแข่งขันแชมป์เปียนลีกในฤดูกาลหน้าอีกต่างหาก ลงทุกการแข่งขันแต่ไม่มีแชมป์ติดไม้ติดมือมาเลยแม้แต่รายการเดียว ความสัมพันธ์ภายในทีมก็เต็มไปด้วยความขัดแย้งมากมายที่กุนซือทั้ง 2 คนจากฤดูกาลที่ผ่านมาก็ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่พวกเขากำลังจะได้รับเงินปันผลในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เป็นจำนวนเงินกว่า 11 ล้านปอนด์เสียอย่างนั้น มันจึงดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่กับเจ้าของทีมที่ดูจะไม่สามารถพาทีมไปสู่ความสำเร็จได้แต่ดันรับผลตอบแทนเป็นจำนวนมหาศาลเสียอย่างนั้น 

     แมนยู อาจต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินเนื่องจากการที่พวกเขาไม่สามารถเข้าสู่การแข่งขัน UEFA Champions League ได้สำเร็จจะทำให้พวกเขานั้นต้องสูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ประกอบกับการที่พวกเขาจับจ่ายใช้สอยดึงตัวนักเตะอย่างหนักหน่วงในช่วงตลาดซัมเมอร์นี้อาจทำให้พวกเขาไม่มีเงินใช้ในอนาคตโดยเฉพาะการจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะที่สูงลิ่วกว่าบรรดาทีมในพรีเมียร์ลีกทั่วไป

     แกรี่ เนวิลล์ จึงมองว่าตระกูลเกลเซอร์ผู้เป็นเจ้าของทีมแมนยูไม่ควรรับเงินปันผลเลยตลอดระยะเวลา 3 ปีถัดจากนี้ไปอย่างน้อยเพื่อให้ทีมมีเงินใช้เพื่อพัฒนาตัวเองแบบรอบด้านได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีการออกมาประกาศผลประกอบการซึ่งจะมีการแบ่งเงินปันผลให้กับเหล่าผู้ถือหุ้นซึ่งจะมีการจ่ายเงินในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ตระกูลเกลเซอร์ ผู้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะได้รับเงินปันผลกว่า 11 ล้านปอนด์ ผลประกอบการของแมนยูที่เปิดเผยออกมานั้นพบว่าพวกเขามีหนี้สินสุทธิเพิ่มขึ้นสูงถึง 11 เปอร์เซ็นต์หรือเป็นจำนวนมากกว่า 5.91 ล้านปอนด์เลยทีเดียว